รีวิวเรื่อง อูยองอู ทนายอัจฉริยะ




            ถ้าจะพูดถึงซีรี่ส์เกาหลี บอกตรง ๆ นะครับ ว่าผมไม่ใช่ติ่งเกาหลี ไม่ใช่สาวกซีรี่ส์เกาหลี ผมจะชอบดูหนังฝรั่งเสียมากกว่า แต่ว่าเรื่องนี้...กลับทำให้ผมตกหลุมรักแบบถอนไม่ขึ้น และทำให้ผมรู้สึกว่า "ผมรู้จักซีรี่ส์เกาหลีน้อยเกินไป" จริง ๆ ผมก็แค่เคยได้ยินชื่อ แต่พอ อ.ชูศักดิ์ จันทยานนท์ แนะนำให้ผมดู ผมจึงเริ่มดูซีรี่ส์เกาหลี ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ..ผมดูจบแล้วด้วย ผมอินจนแบบถอนตัวไม่ขึ้น ผมแทบจะ Search Google ค้นหานักแสดงแต่ละคนเลยทีเดียว และที่ผมชอบคือ เล่าถึงตัวตนในสิ่งที่เราเป็น แต่บริบททางสังคมและอาชีพที่แตกต่างกัน ผมทึ่งกับตนเองอย่างรุนแรงว่า ดูจบได้อย่ารไรเนี่ย ผมก็ตั้งใจดูแบบใจจดใจจ่อ เรื่องที่ผมที่จะมาเล่านั่นคือ



                       อูยองอู ทนายอัจฉริยะ 

                    (이상한 변호사 우영우)


            เรื่องนี้มีเรื่องย่อว่า อูยองอู อายุ 27 ปี บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 จากมหาวิทยาลัยโซล มีไอคิวสูงถึง 164 และสอบเนติบัณฑิตได้เกิน 1,500 คะแนน มีอาการของออทิสติกสเปกตรัม ทำให้เกิดความผิดปกติในการสื่อสารและการเข้าสังคม ทำงานเป็นทนายความที่สำนักงานทนายความฮันบาดา อาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยงเดี่ยวชื่อ อูกวังโฮ มีเพื่อนสนิทชื่อ ดงกือรามี อูยองอูมักจะชอบทำอะไรซ้ำ ๆ อาทิ ชอบกินแต่คิมบับ และพูดถึงปลาวาฬทุกวัน อูยองอูมีแฟนที่ชื่อ อีจุนโฮ ที่เป็นพนักงานที่สำนักงานทนายความฮันบาดา อูยองอูจะต้องหาวิธีในการแก่ต่างให้กับลูกความให้สำเร็จ และไม่ใช่แค่นั้น อูยองอูต้องเจอกับทัศนคติที่เป็นลบ การเมืองในองค์กร สิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้เอื้ออำนวยกับเธอเสมอไป และคนอีกหลากหลายรูปแบบครับ




            พล็อตเรื่องในเรื่องนี้จะเป็นแนวฟิลกู้ด ดราม่าไม่ได้หนักหน่วงเกินไป แต่เล่าเรื่องได้อย่างสมจริง อธิบายกฎหมายให้คนที่ไม่ทราบแบบเข้าใจง่าย ถึงภาษาจะค่อนข้างทางการแต่สามารถสื่อให้ผู้ชมเข้าใจได้ การดำเนินเรื่องก็ไม่ได้ถึงกับเว่อร์วัง แต่เรียกอารมณ์ ความรู้สึกได้อย่างลงตัว ทั้งฉากที่ออกไปเที่ยว ฉากในศาล การประชุม เป็นต้น การดำเนินเรื่องค่อนข้างที่จะเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน แถมสอดแทรกมุกตลกอีกด้วย การสื่อสารของทนายอูยองอู แม้ว่าจะกุก ๆ กัก ๆ ไปบ้าง แต่เพราะความสามารถของเธอทำให้แก้ปัญหาใก้กับลูกความสำเร็จมานักต่อนักเลยล่ะครับ อูยองอูชอบพกหูฟัง ในเวลาที่ต้องการความสงบ หรือต้องเดินทางไปทำงาน เธอจะชอบฟังเสียงของปลาวาฬเสมอครับ

 

“ฉันมีอาการออทิสติกสเปกตรัม ในสายตาของทุกท่าน ฉันอาจจะพูดตะกุกตะกักและแสดงท่าทีไม่เป็นธรรมชาติ แต่ฉันรักกฎหมาย และความเคารพต่อจำเลยที่ฉันมีไม่ต่างไปจากทนายความคนอื่น”


            เรื่องนี้เป็นเรื่องของการแสดงออกในภาวะออทิสติกอย่างแทบจะครอบคลุม ทั้งพฤติกรรมซ้ำ ๆ ของอูยองอู คือการชอบกินคิมบับ และพูดเรื่องปลาวาฬ ปัญหาทักษะสังคม เช่น ไม่รู้จะวางตัวอย่างไรดี ไม่รู้ว่าคนที่คุยจะยุ่งอยู่หรือเปล่า ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรดี ไม่รู้วิธีการเข้าหา และขาดความเข้าใจบริบททางสังคม ปัญหาทักษะทางการพูด ที่จะพูดกุก ๆ กัก ๆ ไปบ้าง พูดตรง ๆ เกินไป พูดแบบไม่รู้กาละเทศะ(ในบางครั้ง) ชอบพูดแต่ในสิ่งที่ตนเองสนใจโดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะอยากฟังไหม เขาว่างที่จะฟังไหม และเธอเป็นคนที่ไวต่อเสียง และความรู้สึก อาทิ เวลาที่เห็นเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือเป็นเรื่องร้ายแรง อีจุนโฮต้องเข้ามาโอบกอดทนายอูยองอูเลยครับ การแสดงออกที่น่าจดจำอีกอย่าง คือทนายอูยองอูจะดูใส ๆ น่ารัก ๆ และชอบทำอำไรที่ค่อนข้างแปลก ๆ เสมอ ง่าย ๆ เวลาเดินเข้าสำนักงาน ทนายจะไม่ค่อยชินกับประตู แต่ก็พูดว่า ย่ำ ย่ำ ย่ำ เดิน เดิน เดิน ผมว่าเป็นความรู้สึกที่น่ารัก และทนายอูยองอูเปรียบดังผ้าขาวบริสุทธิ์ ที่ต้องออกไปเผชิญโลกภายนอก ว่าโลกความจริงเป็นอย่างไร 


"ชื่อของฉันไม่ว่าอ่านตรงหรืออ่านกลับด้าน ก็ยังเป็นอูยองอูค่ะ
กนก บวบ นลิน ยาย วาดดาว อูยองอู"



            การเล่าเรื่องในศาสอันนี้ถือว่าสมจริงเลยล่ะครับ จะเห็นบทบาทต่าง ๆ ในศาลของเกาหลีใต้ ทั้งผู้พิพากษา โจทก์ จำเลย อัยการ ลูกขุน การโต้เถียงทางกฎหมายในคดีถึงแม้ว่าเป็นศัพท์เฉพาะทางกฎหมาย แต่ก็ไม่ทำให้ผู้ชมงง แถมอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้เข้าใจง่ายด้วย การว่าความแม้บางตอนจะยืดยาวบ้าง แต่บทกลับทำให้อารมณ์ของคนดูว่าอยากดูต่อไปอีกไหม หรือจะพิพากษาอย่างไร ผมขอชื่นชมคนที่เขียนบทในเรื่องของการว่าความในศาล คำพิพากษา การโต้เถียงทางกฎหมาย ผู้เขียนบทพายายามที่จะสื่อสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทราบให้ทราบได้ อาทิ กฎหมายฉบับต่าง ๆ ในเกาหลีใต้ กฏหมายแพ่ง กฎหมายอาญา ค่าปรับ เป็นต้น 

            ภาพรวมของซีรี่ส์เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่การเป็นทนายความหรือการว่าความในศาลเท่านั้นนะครับ แต่ยังเล่าถึงชีวิตและความเป็นส่วนตัวของแต่ละคาแรคเตอร์ได้เป็นอย่างดี อย่างความสัมพันธ์ของทนายอูยองอูและอีจุนโฮ ว่าการเป็นแฟนกันต้องทำอย่างไรบ้าง ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อที่จะต้องเป็นแฟนกัน เรื่องนี้จะมีการพูดถึงการเมืองในองค์กร ปัญหาการทำงาน และการถกเถียงในที่ประชุม

            เรื่องของการเข้าสังคมเรื่องนี้ก็สอนได้เป็นอย่างดี ว่าการจะอยู่ร่วมกันกับบุคคลออทิสติกนั้น ต้องทำอย่างไรบ้าง การรับมือลูกความที่มีหลายรูปแบบ ทั้งยอมให้ปริปาก หรือไม่ยอมให้ปริปาก ลูกความที่มีทั้งออทิสติก-เด็ก-คนหลาย ๆ กลุ่ม เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เล่าในเรื่องของการเข้าสังคมนะครับ เรื่องนี้ยังเล่าถึงการเมืองในองค์กรและระหว่างองค์กรด้วยนะครับ กับข้อเสนอของทนายแทซูมีให้ย้ายไปที่บอสตัน เพื่อหลีกเลี่ยงอิทธิพลทางการเมืองออกของทนายอูยองอู และยังเล่าถึงชีวิตของเพื่อนร่วมงาน ว่าเวลาส่วนตัวมีอะไรบ้าง การดำรงชีวิค-ความชอบส่วนตัว มีอะไรบ้าง และการรับมือ ทั้งคนที่ทำตัวดี และทำตัวห่วย ๆ อีกด้วยครับผม 


            พูดถึงตัวละครที่ผมชอบพร้อมเหตุผลประกอบนะครับ 

            1.อูยองอู ผมชอบในความที่เป็นอัจฉริยะ และใช้ข้อกฎหมายในการแก้ต่างให้กับลูกความเป็นอย่างดี อูยองอูมีแฟนคืออีจุนโฮ อูยองอูจะชอบกินคิมบับ และพูดเรื่องวาฬอยู่เสมอ อันนี้เข้าใจนะครับว่าบุคคลออทิสติกมีปัญหาเรื่องของการพูดและทำอะไรซ้ำ ๆ อูยองอูเป็นคนที่มีความอัจฉริยะ น่ารัก ซื่อตรง และมีฉากน่ารัก ๆ หลายฉากเลยทีเดียว

            2.ชเวซูยอน เพื่อนร่วมห้องของทนายอูยองอู ผมชอบความที่เธอคอยช่วยเหลือยองอูอยู่เสมอ หากดงกือรามีคือเพื่อนที่อยู่เคียงข้างยองอูในหลายช่วงชีวิต ซูยอนก็คงเป็น ‘แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ’ ที่แม้ไม่ได้พบบ่อยๆ มองไม่เห็น แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นถึงความจริงใจของเธอเลยทีเดียวครับ เวลาออกไปข้างนอก ทนายชเวซูยอนมักจะซื้อของฝากให้ทนายอูยองอูเสมอ

            3.จองมยอมซอก หัวหน้าทนายความของอูยองอู ผมประทับใจในความที่เขาเป็นผู้นำที่ดี ไม่เข้าข้างใครหรือลำเอียงใครมากเกินไป ผิดก็ว่าตามผิด ถูกก็ว่าตามถูก มีวันหนึ่งที่อูยองอูขาดงานโดยที่ไม่มีเหตุผล จอมมยอมซอกก็จะลงโทษอูยองอู การทำโทษไม่ได้ใช้วิธีที่รุนแรง แต่เป็นการเตือนสติอูยองอู ถึงอย่างไรก็ตาม ทนายจองมยองซอกมีภาวะผู้นำที่ดี สนุกก็จัดเต็ม เรื่องงานถือว่าให้คำแนะนำและคำปรึกษาได้ดี เขามักจะบอกว่า มีอะไรก็ค่อย ๆ คุยกันให้ดีครับ 


            สุดท้าย ผมบอกได้คำเดียวว่า "โคตรโดน" สำหรับซีรี่ย์เรื่องนี้ จริง ๆ ผมไม่ค่อยชอบดูซีรี่ย์เกาหลีเลยนะ แต่พอมาเรื่องนี้ บอกเลย..โดนมาก ๆ ทำให้ผมรู้สึกว่า "รู้จักซีรี่ย์เกาหลี่น้อยไปเสียแล้ว" ผมแทบจะก้มกราบคารวะทีมงาน นักแสดง คนเขียนบท ผู้กำกับจากใจจริงเลยครับ ทำให้ผมอารมณ์ค้ากับเรื่องนี้ได้ตลอดเลยทีเดียว ผมแทบจะอึ้งกับตนเองว่าทำไมถึงดูเรื่องนี้จนจบครับ บุคคลออทิสติกสามารถเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพได้อย่างไร้ขีดจำกัด และอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ดั่งคนปกติ ผมเชื่อว่า บุคคลออทิสติก พัฒนาได้ครับ เพียงแต่รัก เข้าใจ ให้โอกาส และพร้อมจะก้าวไปด้วยกัน หวังว่าสังคมจะให้พื้นที่บุคคลออทิสติกมากกว่านี้ ทุกคนครับ ผมแนะนำทุก ๆ คน ให้ดูเรื่อง อูยองอู ทนายอัจฉริยะ เพื่อที่จะทราบถึงภาวะออทิสติก สภาพแวดล้อม การว่าความในศาล และชีวิตบุคคลออทิสติก อยากให้ทุกคนไปดูเรื่องนี้นะครับ สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวไปก่อน แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ


                                        อัษฎากรณ์ ขันตี

31 ตุลาคม 2565


 อ้างอิงรูปภาพจาก imdb.com ครับ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ถึงเวลารึยังที่จะมีวิชา การอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลาย อยู่ในหลักสูตรขั้นพื้นฐานของทุกระดับชั้นและการทำงาน

ครูจะช่วยเหลือบุคคลออทิสติกได้อย่างไร (ตอนที่ 3)

ทักษะทางสังคมสำหรับบุคคลออทิสติก