ถึงเวลารึยังที่จะมีวิชา การอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลาย อยู่ในหลักสูตรขั้นพื้นฐานของทุกระดับชั้นและการทำงาน

 ถึงเวลารึยังที่จะมีวิชา การอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลาย อยู่ในหลักสูตรขั้นพื้นฐานของทุกระดับชั้นและการทำงาน





อัษฎากรณ์ ขันตี
ที่มา และปัญหาว่าทำไมต้องมีวิชานี้ ?
ผมจะขออนุญาตเล่าถึงปัญหาหน่อยครับ ปัญหาส่วนใหญ่ของสังคมไทย คือปัญหาการถูกรังแก หรือเรียกกันว่า Bully ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ มักจะรังแกคนที่อ่อนแอกว่า รวมทั้งรังแกคนที่มีบุคลิก ท่าทาง การแสดงออก ที่ไม่เข้าพวก การรังแกมีทั้งร่างกาย จิตใจ คำพุด การกระทำ บ้างก็จะมองว่าติ๊งต๊อง เป็นตัวตลก เป็นตัวปัญหา เป็นต้น ไม่ใช่แค่นั้น สังคมยังขาดความเข้าใจในเรื่อง LGBT เรื่องของคนพิการ เรื่องความคิดและมุมมองที่แตกต่างกัน รวมทั้งยังขาดความเข้าใจในทัศนคติของความแตกต่างในแต่ละบุคคล ซึ่งทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ทั้งโรคซึมเศร้า อาการไม่อยากเจอใคร ไปจนถึงฆ่าตัวตายเลยก็มี ด้วยปัญหาดังกล่าว ผมจึงต้องให้มีวิชานี้ครับ วิชานี้เป็นการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานของสังคมแบบรวมความหลากหลาย (Inclusive Society) อีกทั้งยังเปิดโอกาสได้ทำความเข้าใจ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดูแลและอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลายได้ดีขึ้นครับ

วิชานี้นะครับ เป็นวิชาที่ใช้ฝึกทักษะชีวิต ถามว่าจำเป็นอย่างไร ผมจะอธิบายให้ฟังนะครับ ในสังคมเราต่างก็ต้องเจอคนที่หลากหลายทางความคิด การแสดงออก การกระทำ อุปนิสัย สิ่งที่พวกเขาเป็น เป็นต้น ซึ่งคนเราจะต้องเจอคนอีกตั้งมากมาย แต่ทว่า คนส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจในตัวเอง ขาดความเข้าใจในความแตกต่าง ขาดการยอมรับในสิ่งที่พวกเขาเป็น การไม่เคารพเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพียงแค่ความแตกต่าง การขาดความเข้าใจของคนในสังคม ทั้งความคิด การกระทำ การแสดงออก วิชานี้จึงจำเป็นมากสำหรับสังคมที่เปิดรับความแตกต่าง ซึ่งเข้ากับยุคปัจจุบันและอนาคต


จุดประสงค์หลักของวิชานี้คือ
1. ได้เข้าใจในความแตกต่างของแต่ละบุคคลได้ดีขึ้น ทั้งการใช้ชีวิต สิ่งที่พวกเขาเป็น ความคิด ที่มาที่ไป และการแสดงออกต่าง ๆ ทั้งการสื่อสาร อารมณ์ ความคิด และความรู้สึก ที่พวกเขาเป็นหรือยอมรับ
2. ได้ทำความเข้าใจถึงความเป็นมนุษย์ ซึ่งมีการทำความเข้าใจทั้ง LGBT คนพิการ คนที่มีความหลากหลายด้านต่าง ๆ ทั้งความคิด ทักษะ การแสดงออกด้านต่าง ๆ
3. ได้เข้าใจ เรียนรู้ และเปิดโอกาสในการแสดงออกบนความแตกต่างของแต่ละบุคคล และสังคมที่มีความหลากหลายได้ดีขึ้น
4. ได้ทำการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ เข้าใจในความคิดและความรู้สึกที่หลากหลายของแต่ละบุคคลได้ดีขึ้น
5. ฝึกทักษะการเข้าสังคมที่มีความหลากหลาย และเข้าใจถึงมารยาทเบื้องต้นบนความแตกต่างในสังคม
6. ฝึกการดูแล การดำรงชีวิตร่วมกัน ในสังคมที่หลากหลาย

สิ่งที่คาดว่าจะได้รับคือ
1. เกิดความเข้าใจถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคล บนสังคมแบบรวมความหลากหลาย (Inclusive Society)
2. เกิดความเข้าใจในการเรียนรู้บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ผู้พิการ และบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ และบุคคลอื่น ๆ ในความแตกต่างของแต่ละบุคคล
3. ทุกคนมีส่วนร่วมในสังคมอย่างแท้จริง ทั้งการพูด การแสดงออก ความคิด และมีการประชุมเพื่อเรียนรู้เขา-เรียนรู้เรา บนความแตกต่างในสังคม
4. มีทักษะในการดูแลผู้พิการ ผู้ยากไร้ บุคคลที่มีความต้องการพิเศษ และบุคคลอื่น ๆ ตามที่พวกเขามีความต้องการและจำเป็นพื้นฐาน
5. เกิดการปรับความเข้าใจ เปิดโอกาสในการพูดคุย ประนีประนอม และเกิดการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างในสังคม ทั้งยังช่วยปรับทัศนคติ และลดอคติซึ่งกันและกัน และเปิดโอกาสในการอยู่ร่วมกัน โดยการสร้างกิจกรรม และฝึกการอยู่ร่วมกันในสถานการณ์จริง เป็นต้น
6. ช่วยในการหาทางออกของปัญหาในแต่ละบุคคล ให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเรียนรู้ปัยหาเพื่อช่วยเหลือบุคคลต่าง ๆ บนความแตกต่างในสังคม



การจัดหลักสูตรในวิชานี้ ผมว่าควรจะมีทุกระดับชั้นนะครับ ในแต่ละเทอมนั้น สัปดาห์แรกให้มีการแนะนำตัวก่อน จากนั้นจึงสอนความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสังคม ความแตกต่างของคนในสังคม เข้าใจถึงคนพิการ,กลุ่ม LGBT,กลุ่มที่มีความหลากหลายต่าง ๆ กิจกรรมกลุ่ม การแสดงออกบนความแตกต่าง การอภิปราย การประชุมเบื้องต้น การอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายในสังคม เทคนิคการดูแล การสร้างความเข้าใจในแต่ละบุคคล วิธีการแก้ปัญหาในการอยู่กับสังคม กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการเข้าค่าย ลงพื้นที่ และทดสอบการอยู่ร่วมกันจริง ตั้งแต่เดินเที่ยว ร้านอาหาร โรงหนัง จนถึงห้องทำงาน วิชานี้ไม่มีการสอบ จะผ่านหรือไม่ผ่านจะดุที่การยอมรับ เข้าใจ และทดสอบการอยู่ร่วมกันในสังคมว่าจะสามารถทำได้หรือเปล่า เป็นต้น วิชานี้จึงจำเป็นมากในสังคมปัจจุบันครับ




ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมจึงสมควรที่จะมีวิชานี้บรรจุอยู่ในหลักสูตรขึ้นพื้นฐานทุกระดับ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในสังคม ได้เรียนรู้ ได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้น มีทักษะทางสังคมที่ติดตัว และทำให้การสร้างสังคมแบบรวมความหลากหลาย (Inclusive Society) ทำได้ดียิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถอยู่ในสังคมได้ โดยการให้โอกาส และความเข้าใจ ฝากให้ผู้ใหญ่พิจารณาหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
อัษฎากรณ์ ขันตี
2 กุมภาพันธ์ 2564

ภาพจาก :
1.https://www.linkedin.com/pulse/why-creating-inclusive-society-people-disability-should-matt-baxter
2.https://www.google.com/url?sa=i&url=https%3A%2F%2Fwww.pinterest.com.mx%2Fpin%2F608337862156807062%2F&psig=AOvVaw2HHH42kNLNlmJYBSZwuO0G&ust=1612799366677000&source=images&cd=vfe&ved=0CAIQjRxqFwoTCKDnxf2P2O4CFQAAAAAdAAAAABAs
3.https://www.google.com/url?sa=i&url=https%3A%2F%2Fwww.crushpixel.com%2Fstock-vector%2Finclusive-society-onboarding-mobile-app-2292040.html&psig=AOvVaw2HHH42kNLNlmJYBSZwuO0G&ust=1612799366677000&source=images&cd=vfe&ved=0CAIQjRxqFwoTCKDnxf2P2O4CFQAAAAAdAAAAABAy
4.www.shutrestock.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ครูจะช่วยเหลือบุคคลออทิสติกได้อย่างไร (ตอนที่ 3)

ทักษะทางสังคมสำหรับบุคคลออทิสติก